mindcyber 4 months ago

วงเวียนกรรมของสัตว์โลก ครั้งที่15

บนแผงเนื้อ (สุนัข) หอมหมาเคีองแค้น สุนัขขาวสนองบ้านตระกูลตั้ง

อรหันต์จี้กงเสด็จประทับทรง วันที่ 21 พฤศจิกายน 2524 กล่าวเป็นกลอนว่า

  เซินเต๋อถังแต่งหนังสือยามค่ำคืน พากเพียรยืนโปรดสัตว์ทั่วภารา

ประจวบเหมาะสวรรค์ทรงเมตตา จะช่วยพาหลุดพ้นสำเร็จเทพ

ชอบกล่าวหาจี้กงว่าเนื้อหมาหอม ทุกบ้านย่อมสร้างยานผ่านอาเพศ

มหาธรรมผดุงจิตสุดวิเศษ ลดกิเลสไม่เข่นฆ่าเพื่อปากท้อง



อรหันต์จี้กง :สัตว์ปีก สัตว์บก ก็เป็นหนึ่งในสรรพสัตว์ มันอาศัยอยู่ร่วมโลก สวรรค์ให้ความเสมอภาคในการมีชีวิตอยู่ผู้คนเวลาหิวรู้จักกินอาหาร เวลาหนาวรู้จักใส่เสื้อ เมื่อเจ็บก็รู้สึกได้ เพราะมีเส้นประสาท มีความนึกคิด ทั้งยังเป็นพลังของชีวิต ถ้าคนไมีมีชีวิต ก็มีแต่โครงกระดูก หรือสิ่งของที่ธรรมชาติได้ประทานสิ่งล้ำค่าแก่มวลมนุษย์ก็คือ ความมีน้ำใจซึ่งสามารถทำให้อาศัยอยู่รวมกันได้ สัตว์เดรัจฉานแม้จะมีร่างกายต่างไปแต่ก็ยังประโยชน์ต่างๆ นานาแก่มวลมนุษย์ ดังนั้นก็เป็นเพื่อนกับมนุษย์ด้วย มีกลุ่มคนบางกลุ่มเท่านั้นที่มองผ่านความจริงข้อนี้ไป ซึ่งก่อให้เกิดการฆ่าอย่างนองเลือด วันนี้จะพานายหยางเซิง ไปเยี่ยมเยือนสัตว์เดรัจฉาน เพื่อรวบรวมข้อมูล มาตีแผ่ให้เห็นความจริง หยางเซิงขึ้นปทุมทิพย์เตรียมตัวออกเดินทางได้ 

หยางเซิง :ผมนั่งเรียบร้อยแล้ว เชิญอาจารย์ออกเดินทางได้ 

อรหันต์จี้กง :ถึงแล้ว ลงจากปทุมทิพย์ได้ 

หยางเซิง :เพิ่งจะนั่งเรียบร้อย ทำไมรีบลงเร็วนัก! 

อรหันต์จี้กง :ญาติแดนไกลสู้เพื่อนอยู่ใกล้ไม่ได้ วันนี้ไม่ต้องไปไกล อยู่ในตลาดเมืองไถจงนี่เอง รีบหาวัตถุดิบได้ 

หยางเซิง :วัตถุดิบอะไรครับ! 

อรหันต์จี้กง :เนื้อปิ้งไงล่ะ! เธอเห็นข้าถนนด้านหนึ่งมีแผงอยู่แผงหนึ่ง มีโคมไฟแขวนไว้ เขียนว่า “เนื้อหอม” 

หยางเซิง :เห็นแล้วครับ นี่เป็นถนนเถียงคัง มีแผงขายเนื้อหมาเมื่อตอนกลางวันเดินผ่าน แต่ยังไม่เปิดร้านขาย 

อรหันต์จี้กง :เนื้อหอมจะเปิดขายในฤดูหนาวตอนกลางคืนถึงจะมีลูกค้า 

หยางเซิง :ข้างๆแผงเห็นมีสุนัขหลายตัวเห่ากรรโชกอยู่ ท่าทางจะกินคน บางตัวก็นอนอยู่ เห็นมีบางคนนั่งอยู่บนม้านั่งดูเหมือนไม่ใช่ลูกค้า นัยต์ตาลุกแดง มือเคาะที่โต๊ะทำท่าทวงหนี้อย่างนั้น 

อรหันต์จี้กง :ข้างๆแผงเห็นมีสุนัขหลายตัวเห่ากรรโชกอยู่ ท่าทางจะกินคน บางตัวก็นอนอยู่ เห็นมีบางคนนั่งอยู่บนม้านั่งดูเหมือนไม่ใช่ลูกค้า นัยต์ตาลุกแดง มือเคาะที่โต๊ะทำท่าทวงหนี้อย่างนั้นพวกสุนัขเหล่านี้คือวิญญาณเดิมของเนื้อหมาเมื่อสุนัขถูกฆ่าลง บางตัวไม่ยินยอม ก็ติดตามเลือดเนื้อของมันคุมอยู่ข้างๆ แผง ลูกค้ากำลังดื่มเหล้ากินเนื้อหมาด้วยความพอใจแต่หารู้ไม่ว่าข้างหลังเขา พวกสุนัขร้ายกำลังเห่ากรรโชกไม่หยุดพวกคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ในมือทุบโต๊ะก็เป็นวิญญาณเดิมขอสุนัขแต่วิญญาณพวกนี้มีพลังมาก จึงกลายร่างเป็นคนได้ พวกมันกำลังโกรธแค้น กำลังทวงหนี้ชีวิตกับคนฆ่าพวกมันเป็นผีตายโหงที่เคียดแค้น 

หยางเซิง :คนเขามักพูดว่า ตอนอาจารย์ยังเป็นมนุษย์อยู่อาจารย์ก็ชอบทานเนื้อสุนัข วันนี้ได้โอกาสน่าจะหลบมากินให้อิ่มสักมื้อ 

อรหันต์จี้กง :ศิษย์รักชอบพูดตลก เนื้อหมาที่ข้ากินนั้นไม่ใช่หมาประเภทนี้ ฉันกินแต่เนื้อหมาบนสวรรค์ พวกนั้นซิจึงจะเป็นเนื้อหอมจริงๆ พวกหมาพวกนี้น่าจะเรียกว่า “เนื้อเหม็น” 

หยางเซิง :อะไรเรียกว่าเนื้อหมาสวรรค์ล่ะ! กระผมก็เพิ่งได้ยินเป็นครั้งแรกนี้แหละ 

อรหันต์จี้กง :มีคำกล่าวๆ ว่า “คนขี้เหล่อยากได้นางฟ้า” ข้าก็ว่า “คนหยาบคายชอบกินเนื้อหมาสวรรค์” หมาสวรรค์คืออะไร? ก็คือ โจรผู้ร้าย ชาวบ้านกลัวขโมยจะเข้าบ้าน มักจะเขียนไว้บนประตูว่า “ข้างในหมาดุ คนนอกห้ามเข้า” มีคนล่ำลือว่า อรหันต์จี้กงชอบกินเนื้อหมา แต่ไม่ตรองดู อาตมาออกบวชแล้ว เป็นไปได้อย่างไร จะประพฤติผิดศีลได้อย่างไรนิทานชอบเปรียบเปรยพวกขี้เมาก็ยกย่องเหล้าเป็นน้ำอมฤตเนื่องจากข้าเป็นอรหันต์ได้แปลงกายมา อภิญญาติดกายมาและจำพรรษาอยู่ที่วัดเล้งอุ้ง ลักษณะผิดกับคนอื่นมีธรรมจักหมุนเวียนอยู่ในร่างเสมอ ทิพรสหลั่งไหลสัมผัส ทำให้สลืมสลือหมุนเวียนไปตามวัฏจักรของฟ้าดิน เลยกล่าวหาว่าข้าชอบเหล้าเหล้าธรรมดาดื่มแล้วไร้สติ แต่เหล้าอมฤตทำให้สติมั่นคง ข้าก็ไม่เคยมีคำพูดไร้สาระ แต่คำพูดข้าแฝงธรรมะไว้ด้วย เห็นมีผิดพลาดบ้งไหม? ซื้อเหล้าก็ต้องเสียเงิน มืออาตมาวางว่างเปล่า เมื่ออยากเหล้า โพธิสัตว์ยื่นออกไปก็มีมา ไม่ต้องจ่ายบัญชี นี่คือน้ำมนต์ คอยซักฟอกจิตใจให้ตื่นครองสติไม่เหมือนคนธรรมดา ดื่มเหล้าไม่กี่แก้ว ก็เลอะเทอะไม่เอาไหน เซซ้ายล้มขวาไป เป็นยาพิษมอมเมาเฉื่อยชาจิต ข้าเป็นพระอรหันต์เขาเป็นอ้ายขี้เมา จะเปรียบเทียบกันได้อย่างไร? อีกเรื่องหนึ่งกินเนื้อหมา ในร่างคนนั้นมีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า “สัตว์หมา” หมานี่ดุร้ายมาก โลกกาม โอหัง ชอบกัดเจ้าของ เมื่อเลี้ยงหมกเช่นนี้ไว้ ไม่ฆ่ามาแกล้มเหล้าจะรอไปเมื่อ? ผู้คนไม่รู้สาเหตุอันนี้ ประตูใจถ้าผูกหมาร้ายนี้ไว้เมื่อพบผู้ร้านมา ก็ผงกหัวชูหางแสดงการต้อนรับ พอเห็นเจ้าของก็อ้าปากร้องคำราม หมาพวกนี้อาตมาชอบกินนักแล! 

หยางเซิง :อาจารย์กล่าวมา เอาความชั่วร้ายของมันเปรียบเปรยความชั่วร้ายนี้เกิดจากวิญญาณเดิมเปลี่ยนแปลงมา จึงเรียกว่าหมาสวรรค์ การกินเนื้อหมาสวรรค์ ก็คือการฆ่าอวิชชา ละความใคร่ตัดความคิดถึง ไม่ทราบว่าถูกหรือเปล่า 

อรหันต์จี้กง :ใช่แล้ว พวกเราเดินเหินนั่งนอน ธรรมจักรหมุนเวียนอยู่ในกาย น้ำอมฤตมากเหลือล้น ไอธาตุพุ่งขึ้นเบื้องบนเหมือนไอระเหยเหล้าที่อุ่นให้เดือด ทำให้สลืมสลือ จิตใจผ่องใสยิ่งนัก เมื่อเห็นเหล่าพระภิกษุและนางชีที่ใจว่าวุ่น ไม่มีที่ปลูกต้นโพธสัตว์ พื้นจิไม่เบิกบาน มึนงงจนไม่โผล่ เฝ้าแต่จำศีลคนเดียวไร้ประโยชน์ ข้ามีพัดใบโพธิ์อยู่อันหนึ่งเพียงพัดโบกทีหนึ่งก็จะมีลมเย็นพัดโกรด มีรองเท้าหญ้าฟางคู่หนึ่งแม้จะอยู่สุดขอบฟ้าเพียงก้าวลงก็ถึง มหมวกอยู่ใบหนึ่ง โพกสวมใส่ศรีษะ ก็ได้อยู่แดนสขาวดีพุทธเกษตร เที่ยวไล่ตีหมาบ้าเตือนชาวโลก สลับมือถือแก้วเปี่ยมบุญ ปลุกจิตให้ตื่นจากภวังค์มีหรือจะเป็นไปไม่ได้ ผู้คนถ้าหากมีพลังธรรมะ ไม่ทำให้จิตใจมัวเมา ไม่ก้าวเดินผิดทางเลียนแบบอย่างกัน ย่อมสำเร็จพุทธะดังสมประสงค์ 

หยางเซิง :อาจารย์เจียรไนความเร้นลับของการบำเพ็ญเพียรถ้าหากคนที่มีจิตมั่นคง ย่อมมีสิทธิ์ได้ลิ้มรสพระธรรมแท้แน่นอน! พอดีหน้าหนาวกำลังหนาวจัด คนที่ชอบเนื้อหอมมีมากเป็นพิเศษ ได้ยินว่าสรรพคุณทำให้ร่างกายอบอุ่นแล้วยังบำรุงเพศ พวกที่ร่างกายอ่อนแอก็มักอยากลองดู อาจารย์กินเนื้อหอมมาไม่น้อย ไม่ทราบว่าในนั้นมีพิสดารอะไรไม่ทราบ? 

อรหันต์จี้กง :เนื้อหอม! เนื้อหอม! ดึงดูดใจคนแท้ๆ ! กินเข้าไปแล้วร้อนไปทั้งตัว หารู้ไม่ว่าวิญญาณหมาเห่าหอนอยู่ในนั้นกระโดดโลดเต้น กระตุ้น กำเริบอาละวาด ทำให้เส้นเลือดพองโตขึ้น ทำให้รู้สึกว่าได้บำรุงเข้าไปแล้ว ไม่คิดว่าสันดานของธาตุหมากำลังให้พิษแก่ร่างกาย ผู้ที่อยากบำรุงกินแล้วก็รั่วไหลออกไป ไม่เป็นการสูญเปล่าหรอกหรือ โบราณว่า “รู้จักระงับกามดีกว่าบำรุงกาม” ถ้าผู้คนไม่มีเนื้อหมากิน คนก็ต้องอ่อนแอหมดอย่างนั้นหรือ? 

หยางเซิง :เนื้อหมาไม่เห็นหอม ทำไมคนจึงแขวนป้ายว่า เนื้อหอมเล่า? 

อรหันต์จี้กง :อันนี้เป็นทีเด็ดของพ่อค้า พวกหมาป่าไม่เคยอาบน้ำกินซากศพ อุจจาระจนเติบใหญ่ จับมาดมดูสักตัวซิต้องบอกว่าเหม็นแน่นอน ถ้าพ่อค้าเขียนว่า “เนื้อเหม็น” ใครล่ะจะกล้ากิน ก็อาจจะพูดว่า “เนื้อหอม” ได้ ไม่ว่าจะเป็นหมาป่า หมาบ้าน ล้วนนอนอยู่ที่พื้นทั้งนั้น กินอาหารไม่มีอนามัย ส่วนใหญ่จะมีเชื้อโรคเจือปนอยู่ ขอเตือนว่าอย่ากินจะดีกว่า ถ้าขืนจะกินและไม่หัดเอาอย่างอรหันต์จี้กง เนื้อหอมที่จี้กงกินนั้น เป็นเนื้อหมาสวรรค์ที่ตนเองเลี้ยงจนเติบโต ทุกๆ วันเฝ้าขัดสีฉวีวรรณ ล้างหน้าแปรงฟันใส่น้ำหอม ใส่ยาฆ่าเชื้อโรค ทุกวันเลี้ยงอาหารอย่างดี ยังพาไปวิ่งเดินทุกวัน ตกกลางคือก็นอนด้วยกัน หมาที่ปราศจากดินตัวนี้ กินแล้วค่อยมีกำลัง แต่ว่ามันอยู่ชิดติดกับเราตลอดเวลา เกิดมิตรภาพอันลึกซึ้งบางครั้งยังช่วยดูแลบ้าน ถ้าหากฆ่าเพื่อนที่ซื่อสัตว์ตัวนี้แล้ว นำมาบำรุงร่างกายจะดูไม่เป้นการโหดร้ายไปหรือ? ถึงแม้จะบำรุงร่างกายของข้า แต่ไม่สามรถจะชดเชยหรือบำรุงจิตใจของข้าได้ ข้าคงต้องเสียใจไปตลอดชีวิตกระมัง! 

หยางเซิง :ผมได้เคยฟังศานุศิษย์ชาวพุทธ เคยใส่ความท่านอาจารย์ว่า เพราะก่อนนั้นอาจารย์ชอบกินเนื้อดื่อมเหล้ามาก แต่มาบัดนี้ท่านเกิดชักชวนให้กินเจเป็นการใหญ่ และปกป้องวิญญาณสัตว์อีกด้วย หรือเป็นเพราะว่าอาจารย์ก่อนนี้ดื่มเหล้ามาไป เลยสำนึกผิด ตอนนี้ก็เร่งสร้างบุญสร้างกุศลเพื่อชดเชยเมื่อก่อน 

อรหันต์จี้กง :ฮาฮ้า! “พระบ้าบอ” ตอนนี้ก็เริ่มสวดมนต์ขึ้นมาทำให้ศานุศิษย์ชาวพุทธเกิดสงสัยขึ้นมาอีก ปางก่อนข้าใช้ร่างพระภิกษุแปลงกาย เป็นสภาพต่างๆ มา เพื่อหยอกล้อพวกหัวดื้อพวกมันไม่ได้เบิกตาทิพย์ ใช้แต่ตาปุถุชนดูโลก แน่นอนย่อมตกลงในโคลนเลน ถ้าหากผู้คนพอได้ฟังข้าพูดเรื่องจริงตอนนี้พูดแล้วไม่ใช่ไม่ดีหรอกหรือ? ทำไมยังใส่ความกันอีกเล่า? 

หยางเซิง :วันนี้แผงขายเนื้อหอมคึกคักมาก แขกเข้ามากินกันมาก 

อรหันต์จี้กง :พวกเขาร่างกายอ่อนแอมาก ร่างมนุษย์ไม่อาจสนองความต้องการได้ ต้องอาศัยเจ้าหมาน้อยคอยช่วยเหลือ 

หยางเซิง :เนื้อหมาบำรุงร่างกายจริงๆ หรือ? 

อรหันต์จี้กง :การฆ่าหมายังต้องถูกตำรวจจับ เนื่องจากขัดศีลธรรมและไม่ถูกหลักอนามัย ถึงแม้จะบำรุงแต่เป็นการบำรุงร้ายมิใช่เป็นการบำรุงดี 

หยางเซิง :อันนี้มีเหตุผลอะไร? 

อรหันต์จี้กง :หมามีความภักดีต่อมนุษย์ ตามประเพณีเขาไม่ฆ่าหมากินกัน มีแต่สัตว์เลี้ยง เช่น ไก เป็ด ซึ่งเลี้ยงเพื่อฆ่ากินโดยเฉพาะ การเลี้ยงหมาเพื่อฆ่ากินไม่เห็นมี ดังนั้นพวกฆ่าหมามักไม่เลือกวิธีการฆ่า บ้างก็ใช้ยาเบื่อๆ หมาทำให้หมาตายแล้วจึงแอบฆ่าหมา เมื่อหมาถูกเบื่อ ยาเบื่อย่อมแทรกเข้าไปในเนื้อ พวกที่นิยมบริโภคเนื้อหมา มักจะเกิดโรคฝีร้าย หรือริดสีดวง พวกหมากลางถนนมักจะกินอุจจาระ มีเชื้อจุลชีพปะปนอยู่ ผู้บริโภคเนื้อหมาบางคนมักเป็นแผลพุพองทำให้เกิดโรคผิวหนังร้ายแรง ซึ่งรักษาไม่หายขาด ดังนั้นจึงอยากจะให้ชาวบ้าน อย่าได้บริโภคเนื้อหมาเลย 

หยางเซิง :พวกวิญญาณสุนัขเหล่านี้เอาแต่เห่ากรรโชกเราจะไปสอบถามพวกมันได้ไหม? 

อรหันต์จี้กง :ต้องการจะสอบถามพวกมันจริงหรือ? จะให้มันแปลงร่างเป็นคนเสียก่อน 

หยางเซิง :ขอเชิญอาจารย์ช่วยปลุกเสก มันจะได้กลายร่างเป็นคนเพื่อง่ายต่อการพูดคุย 

อรหันต์จี้กง :หมาน้อย! หมาน้อย! เจ้ามีดวงจิตเดิมอยู่ แม้ตัวจะเหม็น แต่คนก็อุตส่าห์เรียกว่าหอม แปลกจริงๆ เจ้าหมกหอมเงยหน้าขึ้นมา อย่าเอาแต่ดูซากศพของตน แล้วเอาแต่โกรธแค้นเดือดดาล พวกเขาไม่รังเกียจว่าเนื้อเจ้าเหม็นยังเรียกว่าหอม เจ้าก็ควรจะพอใจแล้ว ลองมองดูผู้คนที่ตายแล้ว ใครก็ว่าเหม็นไม่กล้าเข้าใกล้ ระหว่างประชุมเพลิงไม่มีใครว่ากลิ่นนั้นหอมสักนิด การได้เป็นหมาน้อยก็นับว่าโชคดีแล้ว สละซากนี้ไปเถอะ เพื่อบรรลุจิตเดิมแท้ อย่าเอาแต่เห่าไม่หยุด เธอไม่สามารถกัดพวกเขาได้หรอก พวกเขาไม่กลัวเจ้าหรอก ยอมก้มหน้ารับชะตากรรม สละเนื้อหอมเพื่อพ้นบ่วงกรรมจะได้ชื่อที่สวยงามดีกว่า 

หยางเซิง :เมื่อผ่านคำพูดของอาจารย์ พวกมันก็เริ่มรู้สึกและหยุดเห่ากรรโชก วิ่งมาหาเราและคุกเข่าลงพลางน้ำตาไหลร่างก็ค่อยๆ แปลงเป็นคน มีทั้งผู้ชายและผู้หญิง สวมใส่เสื้อผ้ามีทั้งสีขาว สีดำ และสีกาแฟ น้ำตาไหลนองหน้า ดูน่าสงสาร 

อรหันต์จี้กง :ฉันคืออรหันต์จี้กง ได้รับคำสั่งพร้อมคนทรงหยางเซิงมาสัมภาษณ์พวกเรา เมื่อครู่ได้เป่าเสกพวกเราต้องการให้พวกเราช่วยเล่าเวรกรรมที่ได้ก่อไว้ จะได้เอาลงในหนังสือ วงเวียนกรรมของสัตว์โลก แต่ละคนจะได้สร้างกุศลเพื่อชดเชยที่แล้วมา และร้องทุกข์แทนชีวิตทั้งหลาย จะได้กุศลมากมาย 

หมาดำ :ขอขอบคุณท่านอรหันต์จี้กงที่ช่วยปลุกเสกพวกเราพวกเราโชคร้ายเกิดเป็นหมา สามมื้อกินแต่เศษอาหารที่เหลือเดน พอถึงหน้าหนาวก็ไม่มีผ้ห่มจะห่ม ยังต้องถูกชาวบ้านคิดแต่จะฆ่าคนที่ฆ่าเรา ขายเรา และกินเรา พอได้ยินอาจารย์ตักเตือนจิตใจสงบขึ้นเล็กน้อย ขอวิงวอนท่านอรหันต์จี้กงช่วยร้องทุกข์แทนพวกเราด้วย 

หยางเซิง :“ความแค้นควรแก้ไม่ควรก่อ” ตอนนี้เจ้ายังดีๆอยู่ไม่ใช่หรือ ที่เห็นนั่นเป็นเพียงเปลือกที่จอมปลอมที่ให้ชาวบ้านเก็บถือเสียว่าถอดเสื้อขนทิ้งเสียตัวหนึ่ง ให้ชาวบ้านได้อบอุ่น ปลงตกแล้วรู้สึกปลอดโปร่งมิใช่หรือ? 

หมาดำ :พูดนั้นง่าย ทำยาก ตอนถูกฆ่านั้นเจ็บปวดทรมานขนาดไหน ขนลุกขนพอวไปหมด ฉันเดิมเกิดที่ตำบลไถ่ผิงหรือไถจง วันหนึ่งออกวิ่งอยู่กลางถนน ถูกชาวบ้านคนหนึ่งเอาค้อนเหล็กตีหัวทางด้านหลังได้แต่ร้องเจ็บปวด เลือดที่หัวก็ไหลจนตายอยู่ที่นั่น แล้วเขาก็จับผมขึ้นใส่ถังข้างหลังรถ ข้างในก็มีพวกหมาก็ร้องครวญครางอยู่ด้วย พวกเราก็ตามมือสังหารไปบ้านมัน พอถึงบ้าน เขาเตรียมน้ำร้อนกะทะใหญ่ไว้ แต่ละตัวถูกโยนลงในน้ำเดือด พร้อมร้องอย่างสุดเสียง เสียงเริ่มสงบลง วิญญาณก็หลุดลอยจากร่าง แต่ความเจ็บปวดยังฝังลึกลงในดวงจิตวิญญาณที่อยู่ในน้ำเดือดเจ็บปวดแสนทรมาน ใจเหมือนจะฉีกออกเป็นเสี่ยงๆ ตอนหลังก็ถูกกลกหนังออก ต่อมาก็ถูกมีดอันคมกริบเชือดเฉือนแบ่งร่าง มีดแต่ละคมเชือดได้เจ็บปวดยิ่ง ทำให้ขวัญหนีดีฝ่อ หลังจากนั้นก็ส่งให้พ่อค้าเอเย่นต์ตามที่ต่างๆ ที่ขายเนื้อหอมอีกที ลงทุนนิดเดียว ฆ่าชีวิตหมาตัวหนึ่งก็ได้กำไรมากมายพวกเราต้องร้องทุกข์ต่อท่านยมบาล 

อรหันต์จี้กง :ถอนความตั้งใจร้องทุกข์นั้นเถิด? เหตุใดไม่พิจารณาการกระทำของตนเองในชาติก่อนเล่า? 

หมาดำ :เมื่อได้ฟังคำตักเตือนของท่านอรหันต์ จิตใจก็เยือกเย็นลง คิดถึงเมื่อครั้งตนรับราชการ ทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวงได้เงินทองมาไม่ใช่น้อย เมื่อเห็นลูกเมียของผู้ใต้บังคับบัญชาสวยก็คิดอยากจะได้ หาอุบายทุกวิถีทาง หากไม่ได้ก็หาหนทางไส่ร้ายลูกน้อง เมียของผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งสวยมาก คิดอยากจะได้ก็วางแผนใส่ความให้ลูกน้องต้องติดตะรางจากนั้นก็ใช้อำนาจบังคับเมียเขาว่า ถ้าหากยอมเสียตัวให้ตนก็สามารถร้องทุกข์ประกันสามีของนางให้ออกมาได้ ภรรยาต้องการช่วยสามีก็ยอมตนตกเป็นเครื่องเล่นของผม แต่ผมกลับคิดว่าถ้าสามีของนางพ้นโทษออกมา ผมก็จะเสียโอกาส เมื่อคิดดังนั้นแล้ว ก็หาหนทางใส่ร้ายป้ายสีเพิ่มโทษให้หนักกว่าเก่าทำให้ต้องติดตะรางนานขึ้น แล้วก็หลอกภรรยาว่าได้ช่วยสุดความสามารถแต่ก็ไม่อาจจะช่วยได้ ต่อมาภรรยาจับได้ว่าเป็นแผนของผมโกรธแค้นมากเลยดื่มยาพิษฆ่าตัวตาย ผมได้ก่อกรรมไว้เช่นนี้จึงต้องเกิดเป็นหมา 

อรหันต์จี้กง :เพราะเหตุฉะนี้ เธออุทิศเนื้อให้ชาวบ้านกินยังจะคิดเอาอะไรอีก ผู้ที่กินเจ้าคนนี้เจ้าก็ไม่รู้จักเขาเลย เขาก็เวียนเกิดมาจากผู้หญิง ที่เจ้าข่มขืนจนเขาต้องฆ่าตัวตายนั่นแหละกฎแห่งกรรมได้สนองเจ้าแล้ว เขากินเจ้าไปหลายคำเพื่อที่จะลดความโกรธแค้นที่เขามีต่อเจ้า เธอดูเขาซิ เขากินด้วยความเอร็ดอร่อย มีความสุขเหมือนตอนที่เจ้าข่มขืนเขาไว้ไม่มีผิด นี้แหละเวรสนองเวร คนกินคน ไวล่ะ! อยู่ที่แผงขายเนื้อที่นานแล้ว เราเปลี่ยนไปที่อื่นกันเถอะเพื่อเปลี่ยนรสชาด 

หยางเซิง :จะไปที่ไหนกันครับ? 

อรหันต์จี้กง :ไปที่หมู่บ้านตงเฮง ตำบลต้าลี่ เมืองไถจง ไปสัมภาษณ์หมาตัวหนึ่งซึ่งมีความผูกพันกับเจ้าของมาก ตามข้าขึ้นบนปทุมทิพย์ 

หยางเซิง :ขอรับ! 

 

อรหันต์จี้กง :ถึงแล้ว นี่คือบ้านตระกูลตั้ง เธอเห็นหมาที่มีสขาวปนแดงนั่นไหม? ทุกๆ วันหมาตัวนี้จะอยู่กับเจ้าของของมันกลางคืนนอนอยู่บนเตียงด้วยกัน เหมือนเงาตามตัว วันก่อนมีคนแซ่จึงได้นำมันไปทีสำนักเซินเต๋อถัง หมาตัวนี้แปลกกว่าตัวอื่นหวังว่าเราคงจะไปสัมภาษณ์มันได้ ให้เล่าเรื่องราวที่ผ่านมา เธอคงลืมไปแล้วกระมัง? 

หยางเซิง :ใช่แล้ว! จำได้แล้ว วันก่อนคุณจึงกับคุณตั้งได้นำหมาตัวนี้ไปไหว้พระที่สำนัก ผมก็อยางจะสัมภาษณ์ หมาตัวนี้น่ารักมาก มันไม่ดุร้ายเลย! 

อรหันต์จี้กง :ฉันจะเสกให้ ให้เป็นร่างคน จะได้พูดคุยกันสะดวก “เสี่ยวหยวน! เสี่ยวหยวน! เจ้าของเรียกอย่างสนิทสนม เช้าเย็นอยู่ด้วยกัน คงมีเหตุจากปางก่อน เป็นหมาที่ต่างจากหมาอื่นเล่าเรื่องอดีตมาให้ฟังหน่อยซิ!” 

หยางเซิง :อาจารย์เสกให้ พร้อมท่องคาถา หมาตัวนี้ค่อยๆแปลงเป็นเด็กหญิงที่ใส่เสื้อแดง รูปร่างเติบโตน่ารักมาก! 

อรหันต์จี้กง :ศิษย์รัก เธอสอบถามได้แล้ว 

หยางเซิง :ผมคือคนทรงสำนักเซินเต๋อถัง วันนี้ตามอาจารย์มาสัมภาษณ์เธอเป็นพิเศษ กรุณาเล่าเรื่องในอดีตมาให้ฟังหน่อย! 

เสี่ยวหยวน :ที่แท้ก็คือท่านอรหันต์จี้กงช่วยปลุกเสก เมื่อครู่เหมือนนอนฝันใหญ่ตื่นขึ้น เมื่อมองเห็นแสงสว่างจากที่มืด....ทำให้ระลึกถึงเรื่องราวในอดีต ก็คือเป็นสาวใช้ของเจ้านายตระกูลตั้ง ตอนนี้เนื่องจากตอนเด็กๆ ยากจนมาก จึงมาเป็นเด็กรับใช้บ้านนี้ ฉันทำงานขยันขันแข็ง จนเจ้านายรักใคร่เอ็นดูฉันเองก็พอใจเพราะเจ้านายปฏิบัติต่อฉันด้วยดี ช่วยเหลือเงินทอง และรักษาพยาบาลพ่อแม่ของข้าจนหายจากป่วยหนัก ฉันมีจิตใจผูกพันกับเจ้านายมาก ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงเป็นความรักหลงรักเจ้านาย แต่เนื่องจากแต่ก่อนประเพณีเคร่งครัดมากฉันเองก็ได้แต่กัดฟันทนเอา จนกระทั่งล้มป่วยเพราะรักข้างเดียวร่างกายอ่อนแอมากและมีโรคมาก วันหนึ่งตัวร้อนจัดมาก ร้องละเมอเรียกชื่อเจ้านาย ภรรยาเจ้านายได้ยินเข้าทำให้สงสัยก้เฝ้าดูกิริยาของฉัน ก็เลยรู้ความในใจของฉัน ก็เลยพูดเรื่องนี้ให้สามีนางฟัง เจ้านายก็ได้แต่ปลอมประโลมไม่ให้คิดมาก จิตใจควรปล่อยสบายๆ ทุกคนก็ดีต่อเจ้ามาก ควรถนอมใจรักษาไข้ให้หาย แต่เนื่องจากจิตใจกลัดกลุ้มมานานจนเกิดโรคปอดขึ้น ในที่สุดก็ตายจากโลกนี้ไป วิญญาณไปถึงยมโลก แต่เยื่อใยตัดยากยมบาลรู้จิตของฉันดี และต้องการแก้สาเหตุอันนี้ แต่ระยะเวลายังไม่อำนวย ต้องรออยู่ในยมโลกก่อน จนกระทั่งเจ้านายตายลงไปเกิดเป็นคนอีกครั้ง จนกระทั่งตั้งตัวได้ ฉันจึงเกิดเป็นหมา เพื่อที่จะสนองกรรมอันนี้ 

หยางเซิง :มีเรื่องรักแบบนี้ด้วยหรือ! ทำไมยมบาลไม่ให้เธอเกิดเป็นหญิงจะได้แต่งงานกับเจ้านาย 

เสี่ยวหยวน :เนื่องจากเจ้านายมีบุพเพสันนิวาสกับผู้อื่น กับฉันก็มีความผูกพันลึกซึ้งกันทั้งสามชาติ เนื่องจากเจ้านายมีบุญคุณช่วยรักษาโรคให้พ่อแม่ฉัน เมื่อฉันมีเยื่อใยเช่นนี้ ก็ได้แต่เกิดเป็นสุนัขตอบแทน และก็ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเกิดเป็นคนเป็นภรรยาเจ้านายได้ 

หยางเซิง :ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง 

เสี่ยวหยวน :ฉันอยู่ร้านขายหมา ถูกเจ้านายตระกูลตั้งซื้อมกตนเองรู้สึกดีใจ เจ้านายรู้สึกดีต่อข้ามาก ที่ได้ซื้อข้ามา พอฉันมาอยู่บ้านเจ้านาย ก็เติบโตขึ้นทุกวัน ฉันก็ทำหน้าที่อย่างภักดีดูแลบ้านช่อง พวกเขาก็ดีต่อฉันมาก อาบน้ำให้ทุกๆ วันเนื่องจากชาติก่อนมีบุญกรรมร่วมกันมา ดังนั้นจึงสนิทสนมกับเจ้านายมากเหมือนเงาตามตัว พอออกไปธุระนอกบ้าน ฉันก็เฝ้าอยู่ในรถออกนอกบ้านพร้อมกัน ตอนอยู่ในบ้านก็นั่งอยู่บนเก้าอี้ พอตกกลางคือก็ขึ้นเตียงนอนกับเจ้านาย ถึงแม้จะไม่ได้เป็นเยี่ยงสามีภรรยาแต่ก็เป็นสุขอย่างมาก ทั้งหมดนี้เป็นอดีตชาติของฉัน 

หยางเซิง :อันนี้เป็นเรื่องราวประหลาดที่เคยได้ยินมา คนและสัตว์ยังมีโรแมนติกกัน ตอนนี้เธอกับเจ้านายก็พูดกันไม่รู้เรื่องไม่ทราบว่าเธอมีเรื่องราวอะไรจะบอกเขา 

เสี่ยวหยวน :เจ้านายและภรรยาดีต่อข้ามาก จิตใจรู้สึกขอบคุณมาก อยากจะให้เจ้านายอย่าตรากตรำกับค้าขายมากนัก ควรจะหาเวลามาดูธรรมะบ้าง จะได้อยู่ใกล้ธรรมะถือศีลภาวนาละทิ้งสิ่งไม่ดีของนิสัย ชาติหน้าจะได้อยู่สรวงสวรรค์ หรือไม่ก็มีครอบครัวที่ดีงามกว่านี้ ถ้าหากไม่ถือศีลภาวนา ตกอยู่เบื้องต่ำจิตใจฉันคงทุกข์ไม่น้อย ชีวิตชาติหน้าของเขาจะตกต่ำกว่านี้! 

หยางเซิง :ความรักเช่นนี้น่านับถือ อยากให้เจ้าของบ้นนี้ประคองตนอยู่ในธรรมะ จะได้ไม่ทำให้คนรักชาติก่อนต้องผิดหวัง 

อรหันต์จี้กง :ความรักเสี่ยวหยวน ทำให้อาตมาซาบซึ้ง ได้เล่าเรื่องความเป็นมา เพื่อเตือนสติชาวบ้าน ชาติหน้าให้เธอเกิดเป็นคนในบ้านคนร่ำรวย วันนี้เวลาดึมากแล้ว เตรียมตัวกลับสำนัก 

หยางเซิง :ขอรับกระผม 

อรหันต์จี้กง :ถึงสำนักเซินเต๋อถัง แล้ว หยางเซิงลงจากปทุมทิพย์ วิญญาณกลับเข้าร่าง 


0
259

คีตธรรม

พระพุทธจี้กง

1654918052.jpg
mindcyber
1 year ago

โอวาทพระพุทธจี้กง

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago

ครั้งที่ 59 ตอน ท่องแหล่งสามัญชนในแดนนรก

1654918052.jpg
mindcyber
5 months ago

ขจัดความลวง

พระนพภางค์เจ้า (กิ่วเทียนซือเหม็งจิงกุง)

1654918052.jpg
mindcyber
2 years ago

เทวดาเซียนท้งประทับทรงมีกลอนว่า

1654918052.jpg
mindcyber
4 months ago