ครั้งที่ 60 วันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2521
ตอน ท่องสำนักรวมกุศล กองให้รางวัลคนดี กองลงโทษคนชั่ว
ท่านอรหันต์จี้กงเสด็จลงตรัสเป็นกลอนมีความว่า :
วิญญาณดี เข้าอบรม พึ่งรสธรรม
เกลาจิตซํ้า ฝึกจิตทุกข์ หมั่นเพียรนา
อภิธรรม คำลํ้าลึก นำศึกษา
ขันอาสา ช่วยมวลชน เพิ่มปัญญา
อรหันต์จี้กง :การท่องนรกในวันนี้ได้จัดให้ไปเที่ยวที่ "สำนักรวมกุศล" "กองให้รางวัลคนดี" "กองลงโทษคนชั่ว" การแต่งหนังสือ "เที่ยวเมืองนรก" ใกล้จะสิ้นสุดลงในขณะนี้ อาตมามีความยินดีอย่างล้นพ้นที่เห็นผู้ใจบุญได้บริจาคเงินเพื่อพิมพ์แจกอย่างมากมาย เป็นความจริงที่แต่ละคนต่างมีใจกุศลเสมอเหมือนกันทั้งนั้น ดังนั้นจึงไม่เป็นที่เสียเรี่ยวเสียแรงของเทพเจ้าและบุคคลที่ต่างลำบากตรากตรำขึ้นๆ ล่องๆ ในแดนนรก และใคร่ที่จะเห็นมวลมนุษย์ที่ถือตามหลักการในการคืนสู่ความบริสุทธิ์ปฏิบัติตามธรรมโดยพร้อมเพรียงกันหนังสือ"เที่ยวเมืองนรก" เล่มนี้อันเป็นหลักธรรมที่เที่ยงแท้ซึ่งแต่ละศาสนาต่างก็ดำเนินปฏบัติตามผู้ที่ได้อ่านมาแล้ว จะได้รับประโยชน์ในทางกายและใจเป็นอย่างมากที่อาตมาได้พรรณนามานี้ ก็มุ่งที่จะให้ชาวมนุษย์ทั้งหลายจงละทิ้งความชั่วประกอบแต่ความดีทำเฉพาะสิ่งที่ดี สมกับที่เป็นคนดี ด้วยใจเมตตาปลอบเตือนมา เพื่อจะชักชวนมวลประชาเกิดความเห็นพร้อมกันด้วยหยางเซิง เตรียมขึ้นบนดอกบัวได้
หยางเซิง :กระผมได้นั่งลงเรียบร้อยแล้ว เชิญท่านอาจารย์ออกเดินทางได้….
อรหันต์จี้กง :ถึงแล้ว เจ้าจงลงจากดอกบัวเถิด
หยางเซิง : "สำนักรวมกุศล" ได้ปรากฏต่อหน้าเราแล้วคล้ายกับโรงเรียนหลังหนึ่งภายนอกสะอาดสะอ้านยิ่งนัก และยังมีต้นไม้ดอกไม้นานาชนิดปลูกอยู่ด้วย มันไม่มีทางที่จะเหมือนคุกตารางแต่อย่างไรเลย
อรหันต์จี้กง :"สำนักรวมกุศล" คือโรงเรียนในยมโลกนั่นเอง เป็นที่ฝึกสอนอบรมพนักงานในตำแหน่งเจ้า (เจ้าในศาลเจ้า) โดยเฉพาะ
หยางเซิง :ประตูได้เปิดออกแล้ว ข้าราชการทั้งหลายกำลังจัดตั้งแถวทำการต้อนรับเรา
อรหันต์จี้กง :เจ้าสำนักและข้าราชการในสำนักได้ออกมาแล้วหยางเซิงเจ้าจงรีบเข้าไปแสดงความคารวะ
หยางเซิง :ขอแสดงความคารวะต่อท่านเจ้าสำนักและเทวทูตทั้งหลาย
เจ้าสำนัก :มิต้อง ท่านหยางเซิง ขอต้อนรับท่านและท่านอาจารย์ที่กรุณามาเยี่ยม ข้าพเจ้าได้รอคอยท่านมานานหนักหนา แล้วเชิญท่านทั้งสองตามข้าพเจ้าเข้าไปข้างใน เพื่อความสะดวกในการเยี่ยมชม
อรหันต์จี้กง :ขอบใจมาก การมารบกวนท่านในวันนี้ขอให้ท่านได้โปรดกรุณาให้การชี้แจงถึงสภาพการณ์ในสำนักของท่านด้วยเพื่อให้เจ้าหยางเซิงได้รับทราบไว้
เจ้าสำนัก :แน่นอนครับ สำนักนี้มีชื่อว่า "สำนักรวมกุศล" หรืออีกนามหนึ่งว่า "สำนักประชุมกุศล" บรรดามนุษย์ที่ได้สร้างบุญสร้างกุศลในตอนที่ตนยังมีชีวิตอยู่มากพอสมควร แต่ยังไม่ถึงขั้นมาตรฐานที่จะลุล่วงถึงผลธรรมอันจะขึ้นสู่สวรรค์ได้ ล้วนต้องนำเข้ามาทำการอบรมฝึกฝนใน "สำนักรวมกุศล" เพื่อเตรียมการเดินทางสู่แดนสวรรค์หรือไปรับตำแหน่งเจ้าในแดนมนุษย์ที่ทำการช่วยเหลือคุ้มครองมวลประชา
หยางเซิง :ผู้ที่อยู่เบื้องหน้ามิใช่นักทรง "จวงเกียงอัง" ของสำนักเราผู้วายชนม์ผู้นั้นหรอกหรือ ?
อรหันต์จี้กง :ใช่ ? พวกเจ้าได้มาพบกันที่นี่ในวันนี้ซึ่งเป็นการนับได้ว่ามีผลบุญต่อเนื่องผูกพันกันอยู่
หยางเซิง :ท่านแซ่จวงผู้อาวุโสน้ำตาไหลพรากเมื่อเหลือบมาเห็นกระผมเข้า…
เจ้าสำนัก :ท่านวิญญาณกุศลแซ่จวง จงอย่าเสียอกเสียใจเลย วันนี้ได้จัดให้พวกท่านที่ประจำสำนักเดียวกันให้พบปะกันเป็นพิเศษท่านสามารถจะพูดคุยถึงเหตุการณ์หลังจากที่ได้ลาจากโลกมนุษย์มาแล้ว
วิญญาณกุศล :วันนี้สามารถมาพบปะกับท่านหยางเซิง
แซ่จวง :ณ ที่นี้ รู้สึกปลื้มอกปลื้มใจอย่างไม่สามารถจะบรรยายได้ แต่ก็ไม่วายที่จะหลั่งน้ำตาด้วยความโศกเศร้าด้วย…ตอนมีชีวิตอยู่ได้เข้าไปประจำในสำนัก "เซี้ยเฮี้ยงตึ้ง" ได้รับการสั่งสอนจากท่านพระเจ้ากวนอู และรับการช่วยเหลือจุนเจือจากท่านเจ้าสำนักและนักธรรมทั้งหลาย ดังนั้นข้าพเจ้าจงเกิดความสนใจเข้าช่วยงาน ไปทำการช่วยลอกเขียนผนึกซองและจัดส่งจดหมายใน "วารสารเซี้ยเฮี้ยงตึ้ง" ทุกๆ วันในใจคิดว่าเมื่อมุ่งมาตรช่วยงานไปในอนาคตกาลจะได้ไปเสพสุขบนแดนสวรรค์ แต่ยังมีความหลงใหลอยู่มาก จึงทิ้งเยื่อใยแห่งความใคร่ไว้ในโลกมนุษย์ ดังนั้น เมื่อตอนหลังจากได้ลาโลกแล้ว แม้ว่าจะมีเจ้าโชคเจ้าชัยให้การนำทางและมีท่านพระเจ้ากวนอูช่วยคุ้มครอง แต่เนื่องจากมีความชั่วอยู่มาก เมื่อเอาความดีกับความชั่วมาหักล้างกันแล้ว จึงไม่มีคุณวุฒิพอแก่การไปสู่สวรรค์ ตอนอยู่ในโลกมนุษย์ท่านพระเจ้ากวนอูได้ฝากความหวังไว้กับข้าพเจ้ามาก ได้เคยสั่งสอนปลุกปลอบเสมอๆ หากแต่ตนเองมีสติปัญญาตื้นเขินมาก มิสามารถเข้าใจความหมายโดยตลอด ตัวก็ไม่ได้เป็นตัวของตนเอง ยังมิทันสำเร็จในความมุ่งหมาย แต่ตัวเองก็ด่วนตายเสียก่อน…แต่ยังดีที่ตอนนั้นมีความซื่อสัตย์อย่างบริสุทธิ์พระเจ้าจึงได้นำข้าพเจ้าเยี่ยมชมสภาพการลงโทษของแต่ละขุมแล้วจึงให้เข้ามารับการฝึกอบรม "สำนักรวมกุศล" ขณะที่ทำการฝังศพของตัวข้าพเจ้า นักธรรมร่วมสำนักทุกท่านต่างก็ได้จุดธูปบูชาและส่งศพโดยพร้อมเพรียงกัน ทำให้เกิดความปิติตื่นเต้นใจอย่างบอกไม่ถูก ขอเชิญท่านหยางเซิงจงช่วยไปกล่าวคำขอบคุณแทนข้าพเจ้าด้วย ทุกวันนี้ข้าพเจ้าได้เรียนทั้งหนังสือทั้งธรรมในเวลาเดียวกัน มีการสอบผ่านเป็นประจำ ซึ่งเป็นการฝึกอบรมจิตใจของพวกข้าพเจ้า เช่นการพบเห็นเงินทองจะไม่เกิดความอยากได้ เห็นหญิงงามไม่เกิดความหลงใหลเพรียบพร้อมด้วยใจเมตตากรุณาเป็นต้น…จึงสามารถจะผ่านด่านไปได้ข้อสอบต่างๆ เหล่านี้ ล้วนเป็นภาพหลอนที่แปลงมาจากเทวดา พระอรหันต์ เช่นอย่างที่ให้เราไปยังที่ที่นั้นๆ ข้างทางเกิดมีทองคำปรากฏมาให้เห็น หรือมีหญิงงามมายั่วยวนชวนใจ หากว่าจิตใจไม่มั่นคงแล้วจะต้องสอบตก ไม่ได้มาตรฐานต้องมีการอบรมฝึกฝนอบรมกันใหม่ ตามปรกติมักจะมีเทวดา พระอรหันต์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสด็จมาเทศน์บรรยายธรรม แม้จะมิได้ถูกทำโทษ แต่รสชาติแห่งการท่องกับการสอบไล่นั้นก็ไม่เบาเหมือนกัน….
วิญญาณกุศล :กราบวานท่านหยางเซิงได้โปรดไปบอกต่อลูกๆ ของข้าพเจ้าด้วยว่า ควรที่จะหมั่นฝึกตนบำเพ็ญธรรม ลูกชายข้าพเจ้าชื่อ "บุ้งเฮี้ยง" มีนิสัยขวานผ่าซากคงจะทำงานใหญ่โตอะไรได้ยาก รู้สึกน่าเสียดายยิ่ง และหวังว่าศิษย์ร่วมสำนักจงทำงานอย่างจริงจัง หวนคิดถึงวันก่อนโน้น ข้าพเจ้าก็คิดจะตามท่านไปท่องนรกด้วย หารู้ไม่ว่า คำพูดนั้นขลังมาก เลยกลายเป็นความจริงคิดจะฝึกฝนอบรมสร้างกุศลสร้างบุญอีก แต่เรือนร่างได้ดับสูญเสียแล้วก็เลยหมดปัญญาลง
อรหันต์จี้กง :สภาวการณ์ใน "สำนักรวมกุศล" มีเท่าที่เห็นนี้แหละเราควรรีบไปเยี่ยมชม "กองให้รางวัล" กับ "กองลงโทษคนชั่ว" ขอลาละนะ
หยางเซิง :ขอให้ท่านผู้อาวุโสแซ่จวงจงรักษาตัวรักษาศีลให้จงหนัก ส่วนงานการในสำนักขออย่าได้เป็นห่วง
เจ้าสำนัก :ให้ข้าราชการทั้งหลายตั้งแถวนมัสการส่งท่านอาจารย์
อรหันต์จี้กง :เจ้าหยางเซิงขึ้นบนดอกบัวได้แล้ว เราจะไปเยี่ยมชมแหล่งอื่นต่อไป
หยางเซิง :กระผมได้นั่งลงเรียบร้อยแล้ว เชิญท่านอาจารย์เคลื่อนออกไปได้แล้ว…
อรหันต์จี้กง :ได้มาถึง "กองให้รางวัล" แล้ว
หยางเซิง :จริงๆ ด้วย บนหน้าประตูเขียนตัวอักษรไว้ว่า "กองให้รางวัลคนดี"
หัวหน้ากอง :ขอน้อมรับท่านอาจารย์และท่านหยางเซิงที่ได้มายังสถานที่นี้
อรหันต์จี้กง :เราศิษย์อาจารย์ได้มาเยี่ยมชมกองของท่านในวันนี้ขอท่านได้โปรดแนะนำชี้แจงให้ทราบโดยสังเขปด้วย
หยางเซิง :เจ้าโชคเจ้าชัยได้นำตัววิญญาณผีมายังสถานที่นี้โดยมิได้มีโซ่ตรวนหรือเฆี่ยนตีแต่ประการใดซึ่งอยู่ในสภาพที่อิสระมาก
หัวหน้ากอง :บรรดามนุษย์ที่ตายลงแล้ว ที่มีความดีมากกว่าความชั่ว ส่วนหนึ่งที่ได้มายังกองนี้ก่อน เพื่อรอการแยกแยะต่อไปวิญญาณที่อยู่ในกองๆ นี้ได้รับความเป็นตัวของตัวเอง เป็นอิสรเสรีสามารถดื่มน้ำชาสังสรรค์กันตามแต่ใจชอบ หรือจะทำการพักผ่อนด้วยการเล่นหมากรุก "กองให้รางวัล" คือสถานที่ๆ ให้พวกวิญญาณกุศลทำการพักผ่อนชั่วคราว ที่มาอยู่ที่นี้ต้องรอสักระยะหนึ่งแล้วก็จะส่งมอบไปยัง "สำนักรวมกุศล" หรือส่งไปให้แต่ละขุมทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
หยางเซิง :อ้อ! ที่แท้เป็นดังนี้เอง
อรหันต์จี้กง :เนื่องจากเวลาจำกัด เราจะไปเยี่ยมชมที่ "กองลงโทษ" กันอีก ขอลาท่านหัวหน้าละ
หัวหน้ากอง :ให้ข้าราชการตั้งแถวส่งอาจารย์
อรหันต์จี้กง :เจ้าหยางเวิงขึ้นดอกบัวเถอะ "กองลงโทษ" ห่างจากที่นี่ไม่มากนัก…..ถึงเสียแล้ว
หยางเซิง :ที่นี่ผิดกับ "กองให้รางวัล" วิญญาณผีที่มายังที่นี้ล้วนโดนยมทูตควบคุมตัว คล้ายกับว่าเพิ่งโดนจับอย่างนั้นแหละ
หัวหน้ากอง :ขอน้อมรับท่านผู้ทรงธรรมทั้งสอง ที่ท่านได้มาเยี่ยมในวันนี้ ทำให้กองนี้เป็นเกียรติอย่างยิ่ง ท่านแต่งหนังสือปลอบเตือนชาวโลก บุญกุศลนั้นใหญ่ยิ่งนัก
อรหันต์จี้กง :ท่านหัวหน้ากองให้เกียรติมากไปแล้วเราศิษย์อาจารย์ที่มาในวันนี้ เนื่องจากเวลาจำกัดมาก ขอให้ท่านหัวหน้ากองช่วยชี้แจงอธิบายสภาพการณ์ในกองของท่านให้ทราบด้วย
หัวหน้ากอง :ได้ครับ คืออย่างนี้ครับ "การลงโทษคนชั่ว" ประดามนุษย์ที่ได้ก่อกรรมทำเข็ญ ที่ทรยศทำระยำต่อลำดับศักดิ์ศรีสังคม เจ้าสามแดนได้ทำการตรวจตราตลอดทั้งกลางวันและกลางคืนแล้วกลับไปรายงานในยมโลก หากพวกที่ทำความผิดอย่างฉกาจฉกรรจ์แล้ว กองๆ นี้จะจับเอาวิญญาณนั้นมาลงโทษที่ยมโลก ผู้ที่โดนทำโทษนั้นตัวยังอยู่ในแดนมนุษย์ เพียงแต่มีความสะลึมสะลือและเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ขณะนี้คืออยู่ในระว่างเกิดการป่วยไข้ของตัวมนุษย์ มีอาการวิงเวียนศีรษะ ปวดหัว ครั่นเนื้อครั่นตัว ตัวมนุษย์นั้นรู้สึกแต่ว่าตัวเองเกิดป่วยไข้ขึ้น ไม่สบายทั้งกายและใจ แต่ไม่รู้ว่าวิญญาณของตนได้ถูกทำโทษ เมื่อหายจากความป่วยไข้แล้ว ก็คือวิญญาณนั้นถูกปล่อยให้คืนสู่แดนมนุษย์ ทางจิตใจร่างกายจึงรู้สึกว่าสบายขึ้น ผู้ที่ถูกคุมตัวมาครู่นี้ คือวิญญาณมนุษย์ นี่แหละคือกิจการทำโทษคนชั่วของกองนี้วิธีหนึ่งล่ะ ส่วนวิธีที่ 2 (ที่ทำการลงโทษผู้มีบาป) ที่สร้างบาปทำชั่วไว้มาก บ้างก็ส่งมาให้กองนี้จัดการลงโทษเสียก่อน แล้วรอจนแต่ละขุมทำการตรวจสอบหลักฐานให้เรียบร้อยแล้ว จึงจะส่งมอบไปให้ขุมอื่นๆ ดำเนินการต่อไป ดังนั้น กองนี้จึงเป็นสถานที่คุมขังครั้งคราวเท่านั้นเอง
หยางเซิง :ที่จริงมีดังนี้เอง ขอขอบคุณท่านหัวหน้ากองได้ให้การชี้แจง
อรหันต์จี้กง :เวลาดึกมากแล้ว เราเตรียมการกลับสำนักกันเถิด
หัวหน้ากอง :ให้ข้าราชการทั้งหลายตั้งแถวนมัสการส่งท่านอาจารย์
อรหันต์จี้กง :เจ้าหยางเซิงขึ้นดอกบัวเถอะ
หยางเซิง :กระผมได้นั่งลงเรียบร้อยแล้ว เชิญท่านอาจารย์กลับได้….
อรหันต์จี้กง :ถึงสำนักเซี้ยเฮี้ยงตึ้งแล้ว
หยางเซิงลงจากดอกบัว วิญญาณกลับเข้าสู่รางดังเดิม