วงเวียนกรรมของสัตว์โลกสำเร็จลง พระแม่แดนสุขาวดีจัดพิธีเฉลิมฉลอง
อรหันต์จี้กงเสด็จประทับทรง วันที่ 3 มีนาคม 2525 กลอนว่า:
เดรัชฉานหันกลับเดินตามพุทธองค์
จิตมั่งคงทางวงเวียนถูกตัดขาด
บรรลุแจ้งกลับสวรรค์ไร้กันดาร
ฟ้าบนดาลทะเลทุกข์ไร้คลื่นลม
ทุกศาสนารวมกัน ณ เซินเต๋อถัง
อรหันต์ยังบอกทางคนนิยม
พระธรรมสูงเปล่งแสงทรงกลมกลม
สุขสมใจทั่วหน้านิรันดร
อรหันต์จี้กง :ฮาฮ้า! วันนี้เป็นวังมงคลวันหนึ่ง หนังสือวงเวียนกรรมจบลงในยี่สิบสองครั้ง ฝนไม่ตกนานแล้ว วันนี้เกิดมีฝนตกหนัก สระบึงที่แห้งขอดก็มีน้ำเต็มขึ้นมาฉับพลันปลาน้อยต่างดีใจกระโดดโลดเต้น สัตว์เดรัจฉานที่มีชีวิตรอดอยู่ในโลกนี้ นอกจากสัตว์จำนวนน้อยที่ถูกมนุษย์รักสงวนได้รับการเลี้ยงดูอย่างทะนุถนอมแล้ว สัตว์ส่วนใหญ่มีชีวิตตามมีตามเกิด ตลอดชีวิตอาจไม่เคยอาบน้ำเลยสักครั้งเดียว ยกเว้นตอนตายเท่านั้นที่มนุษย์กรุณาอาบน้ำให้ (อาบน้ำเดือด) ซึ่งการอาบน้ำเดือดเช่นนั้น เป็นการอาบเพื่อเอาชีวิตของมัน จากนั้นก็ถอนขน ขูดขน น่าอนาถยิ่งนัก! วันนี้ สำนักเซินเต๋อถังได้รับเทวโองการให้แต่งหนังสือ วงเวียนกรรมของสัตว์โลก บัดนี้ได้สำเร็จลงแล้ว อาตมาเลยเสกฝนทิพย์ เพื่อเป็นการอาบน้ำชำระกายให้เหล่าสัตว์ทั้งมวล เป็นการ “อาบน้ำเย็น” เพื่อให้วิญญาณได้ตื่นจากภวังค์ จะได้มีชีวิตยืนยาวต่อไป ถึงแม้ว่าพวกมันจะเปียกโชกไปด้วยน้ำฝนเหมือน “ไก่ในชุป” แต่ทว่าพวกมันต่างดีอกดีใจเพราะว่าน้ำเย็นไม่มีอันตรายต่อมัน ยิ่งเป็นพวกเป็ด พวกห่าน ยิ่งพออกพอใจมาก เพราะทุกๆวันก็ได้แต่ดื่มกินน้ำเหม็นๆ ในบ่อนั้น บัดนี้มันอ้าปากแหงนคออ้าปากรองรับน้ำฝน ดื่มกิน พวกควายส่ายหัวไปมา ชะล้างเอาฝุ่นดินไปได้อักโข เสือ สิงห์โต เสือดาว ช้าง ก็พอใจต่อการอาบน้ำครั้งนี้เช่นกัน นั้นก็คือ เป็นการล้างร่างกายและวิญญาณของเหล่าสัตว์ เพื่อ “ชุบชีวิตให้สะอาดบริสุทธิ์”!
หยางเซิง :วันนี้ได้เห็นอาจารย์เริงร่าโบยบิน ศิษย์ก็มีจิตเริงร่าไปด้วย เป็นการเสร็จภารกิจของสวรรค์ไปอีกอย่างหนึ่ง
อรหันต์จี้กง :ยานทิพย์ลำใหม่ ไม่มีฝุ่นไอเกาะติด นั่งแล้วช่างสุขเหลือเกิน ถึงแม้จะมี่คลื่นน้อยอยู่บ้าง ก้ได้อาศัยคลื่นน้อยนี้กระทบให้เรือได้เล่น ลิ่วๆ ฉิวๆ เพลิดเพลินยิ่งนัก ! มองเห็นที่สำนักเซินเต๋อถังมีถาด ผลไม้ 5 ถาด เรียงแถวอยู่ อาตมาไม่อาจรับไว้ได้ จะนำความหมายของผลไม้ทั้ง 5 ถาดมาเล่าให้ฟัง :
1.ผลเฉาบ๊วย มีผลแดงน่ารัก รอบๆ ผลมีเม็ดเล็กๆ งอกออกมาเหมือน (อรหันต์น้อย) กินแล้วเปรี้ยวๆ หวานๆ นั้นหมายถึงคนถือบวช มีทั้งทุกข์ มีทั้งสุข ผ่านอุปสรรคนานาชนิดจนกว่าจะสำเร็จเป็น(อรหันต์) ผลบริสุทธิ์
2.ผลเน้ยบู่ ลูกแดงเรื่อๆ น่ารัก ดูเหมือนระฆังที่แขวนไว้กลางหาวเหมือนเมฆหมอก ถ้าเอาลงมาไว้บนพื้น ก็คล้ายฝักบัว(ฐานบัวรองพระพุทธรูป) รสหวานชื่น เหมือนกับเผยดวงจิต ผู้ทรงศีลควรรับประทานบ่อยๆ จะได้เอาฝักบัว(ฐานบัว)ลอยล่องอยู่ท่ามกลางเมฆหมอก
3.องุ่น ผลไม้ถาดนี้เป็นสินค้าจากสหรัฐอเมริกา ผู้ถือศีลนับว่ามีวาสนาได้ลิ้มรสองุ่นนอก องุ่นดูเหมือนลูกประคำใครเห็นก็ชอบ พวกองุ่นลูกประคำนี้ ทั้งสวดมนต์ก็ได้รับประทานก็ได้มีประโยชน์มาก ขอให้สรรพสัตว์จงอย่าห่างไกลพระเหมือนองุ่นอยู่ในมือ อย่าเหมือนผู้ที่ไม่ได้รับประทานผลองุ่นก็มักจะบ่นว่าเปรี้ยวปาก เฉกเช่นกล่าวว่า “สุขาวดีอยู่ไกลเหลือเกินเดินไม่มีวันถึง ผลไม้ทิพย์อยู่บนสวรรค์ไม่อาจจะได้ลิ้มรส” ฉะนี้ แล้วผลองุ่นนี้เล่ามิใช่อยู่ห่างเป็นหมื่นๆลี้ (แดนสุขาวดี) ถึงสหรัฐอเมริกาหรอกหรือ ทำไมส่งมาวางต่อหน้าท่านได้ละ ฉะนั้นจงอย่ากล่าวว่าไม่มีทางนะ
4.พุทรา พุทรารูปร่างกลมๆรีๆ เหมือนลูกรักบี้ เป็นผลไม้ธรรมที่ควรจะแย่งชิงเอาไว้ การฝึกธรรมะก็เหมือนเล่นรักบี้ บางครั้งแย่งลูกกันจนหัวร้างข้างแตก (รบกับมาร) เนื่องจากความเมตตาจึงไม่ยอม ถ้าหากจะยืนยันอยู่ในแดนธรรมะด้วยความมั่นใจที่จะเอา (ผลธรรมะ) เตะเข้าเขตแดนของตนให้จงได้ มิฉะนั้น ถ้าถูกมารแย่งไปได้ ก็จะได้ชื่อว่า ผู้พ่ายแพ้ในสนามธรรม
5.น้อยหน่า เป็นถาดที่วางอยู่ตรงกลาง เป็นถาดที่เด่นมนุษย์ใช้พลังสมองตลอดชีวิต ใช้จนหัวหมุนมึนงง ผลที่สุดก็แห้งเหี่ยวเฉาตาย ผลน้อยหน่านี้ดูเหมือนศรีษะใหญ่ บนศรีษะยังเต็มไปด้วยหัวเล็กๆ ก็เหมือนกับคนๆ เดียวอวตารเป็นคนนับไม่ถ้วน เศียรๆ เดียวอวตารเป็นหลายๆเศียร แต่ละเศียรล้วนมีธรรมะ ในที่สุดก็สำเร็จเป็นอรหันต์ ผลน้อยหน่าเป็นผลไม้ชั้นเลิศ ผู้มีวาสนาก็สามารถได้รับ อันนี้ก็มีความหมายเป็นประการฉะนี้ การบูชาพระควรใช้ผลไม้ เธอดูซิมันน่าสดใหม่เพียงใด! ผลไม้บูชาเหล่านี้ ผลที่สุดก็คืนกลับให้ผู้คนได้กินกัน! เมื่อผู้คนได้อ่านหนังสือวงเวียนกรรมของสัตว์โลกจบลงแล้วเชื่อแน่เหลือเกินว่า บนโต๊ะบูชาคงลดสิ่งเหม็นคาว (เป็ด ไก่ หมู) ฮ้า ฮ้า
หยางเซิง :อาจารย์กล่าวอย่างมีเหตุผล ! ศิษย์ได้อ่านพบหนังสือเชิญชวนทานเจ อยู่บทหนึ่ง ดังนี้:
ประนมกราบ แทบบาทพระ อธิษฐาน
ขอพบพาน แต่สิ่งดี ที่ประสงค์
ก้มสักการ ไม้ดอกผล จิตมั่นคง
หากปลิดปลง ชีพสัตว์ อย่าหวังบุญ
เรื่องเวียนว่าย ตายเกิด เจ้าไม่เชื่อ
ญาติมิตรเมื่อ สิ้นชีพลง กรรมนำหนุน
ก.ฆ่าไก่ เหมือนฆ่าลูก สุดทารุณ
ข.ฆ่าหมู สุดเนรคุณ ฆ่ามารดา
พระกวนอิม โปรดเจ ไม่ใช้เหล้า
พุทธเจ้า เกลียดที่สุด คือฆ่าสัตว์
พระเจ้า ล้วนมีจิต โพธิสัตว์
จงปฏิบัติ ตามรอย พุทธธรรม
เว้นแต่ เจ้ามาร หลงลาภปาก
แต่ทำบาป หลอกลวง ผิดศีลธรรม
ขอเตือนอย่า เซ่นไหว้สัตว์ ทำบาปกรรม
น้อมจิตนำ จุดธูป เพียงสามดอก
บริจาค ทรัพย์สิน ช่วยคนยาก
บุญจะมาก ลูกหลาน สุขสบาย
กินเจ มีประโยชน์ ทั้งกายใจ
หมดมารร้าย อยู่สุข ทุกฤดู
อรหันต์จี้กง :ท่องได้ดีมาก! บทกลอน (เตือนให้กินเจ) ช่วยบอกความจริงเกี่ยวกับการไหว้พระไหว้เจ้า ขอให้สาธุชนคิดให้ลึกซึ้งเพื่อหลุดพ้น หยางเซิง แต่งตัวเสียให้เรียบร้อย วันนี้สุขาวดีแดนพุทธเกษตรมีงานพิธีฉลอง พระแม่คอยพบพวกเราอยู่เตรียมตัวขึ้นปทุมทิพย์!
หยางเซิง :ครับผม! ผมแต่งตัวเรียบร้อยอยู่แล้ว นั่งเรียบร้อยบนปทุมทิพย์ ขอเชิญท่านอาจารย์ออกเดินทางเถิด!
อรหันต์จี้กง :วันนี้ ขอให้เจ้าเป็นผู้ขับเคลื่อนปทุมทิพย์ก็แล้วกัน
หยางเซิง :ผมไม่กล้าครับ ! ถึงแม้ว่าดอกปทุมทิพย์วันนี้จะใหญ่ขึ้นอีกเท่าตัว รอบๆ ยานมีรัศมีเปล่งฉายเหมือนดังเพชรเปล่งประกาย มองดูเป็นของล้ำค่า แต่ศิษย์มิกล้าขับเคลื่อน
อรหันต์จี้กง :ปทุมทิพย์ช่อนี้ เป็นยานพาหนะพาเราศิษย์อาจารย์ไปเที่ยวจนแต่งหนังสือจบลงไปแล้วสามเล่ม เพื่อฟ้าดิน เพื่อมนุษย์สัตว์เดรัจฉาน เบิกสู่สรวงสวรรค์ที่พิจิตรพิสดาร ดังนั้นดอกปทุมทิพย์นี้จึงขยายใหญ่ขึ้นทุกทีเพิ่มรัศมีขึ้นอีก กอบกู้มนุษย์นับจำนวนไม่ถ้วน หนังสือทั้งสามเล่มนี้ ช่วยให้เขาถึงชีวิตหันมาฝึกฝนบำเพ็ญธรรม ก็ได้อาศัยดอกปทุมทิพย์นี้ ดังนั้นจึงมีพลังธรรมะผิดธรรมดา เธอไม่ต้องตกใจกลัว เพียงจิตคิดเคลื่อน จะไปหาพระแม่แห่งแดนสุขาวดีเท่านั้น ปทุมทิพย์ก็จะแล่นลิ่วไปตามเจ้าคิด
หยางเซิง :เป็นไปได้อย่างนี้หรือ?
อรหันต์จี้กง :แน่นอน! ถ้าหลงทางอาจารย์จะช่วย ถ้าไปถูกก็ไปเอง ตอนนี้ก็ไปเองเถอะ!
หยางเซิง :อาจารย์กล่าวเช่นนี้ ผมก็จะกล่าวให้ถูกต้อง....” ปทุมทิพย์! ปทุมทิพย์! ฉันกับอาจารย์ต้องการไปงานฉลองที่แดนสุขาวดี ขอเชิญออกเดินทางเถิด!.....” (มหัศจรรย์จริงพอกล่าวจบเท่านั้น ปทุมทิพย์ก็บินไปเหมือนเครื่องบิน ลอยอยู่บนนภากาศ ผ่านชั้นเมฆต่างๆ นับไม่ถ้วน ตรงไปสู่เบื้องบน....ด้วยความเร็วที่สูงมากจนตาลืมไม่ขึ้น!)
อรหันต์จี้กง :เธอควรหลับตา เข้าสมาธิ แดนสุขาวดีสักครู่ก็ถึง
หยางเซิง :ครับผม! ผมจะหลับตาสักครู่ ........ แสงวับๆสีขาวอยู่ข้างหน้า คงถึงแล้วซินะ!
อรหันต์จี้กง :มาถึงแดนสุขาวดีแล้ว ข้าจะบังคับให้ปทุมทิพย์หยุดหยางเซิงรีบลงจากยานได้ ลานพิธีบรรดาเทพเทวดาตลอดจนพระพุทธเจ้าทั้งหลายนั่งอยู่เต็มไปหมด พวกเรารีบเข้าไปนมัสการท่านพระแม่กันเถอะ
หยางเซิง :แดนสุขาวดีเต็มไปด้วยงานเลี้ยง คึกครื้อนผิดปกติ
มหาจักรพรรดิ์หลือซุ่นเอี้ยง:ยินดีต้อนรับพระอาจารย์จี้กงกับหยางเซิงแห่งสำนักเซินเต๋อถัง เมืองไถจง งานเลี้ยงฉลองในวันนี้ ข้าพเจ้าเป็นผู้รับผิดชอบ ขอเชิญท่านทั้งสองโปรดตามข้าพเจ้ามา!
หยางเซิง :ขอรับกระผม! ขอบพระคุณ ท่านอาจารย์เหลือที่นำทาง!
มหาจักรพรรดิ์หลือซุ่นเอี้ยง:ที่นี้เป็นที่พิเศษ ขอเชิญท่านและอรหันต์จี้กง
หยางเซิง :ขอบพระคุณ ท่านอาจารย์หลือ! โต๊ะตัวนี้กลมใหญ่ปูด้วยผ้ากำมะหยี่สีแดงสด บนโต๊ะเต็มไปด้วยผลไม้หลากชนิดและน้ำอมฤต พระแม่กวนอิมก็ทรงประทับอยู่! ศิษย์หยางเซิงขอนมัสการท่านมหาโพธิสัตว์!
พระแม่กวนอิม: มิต้อง! วันนี้ท่านทั้งสองเป็นแขกพิเศษ เชิญนั่งเถอะ!
หยางเซิง :ขอรับกระผม! ขอบพระคุณ ท่านมหาโพธิสัตว์ที่เป็นห่วง
มหาจักรพรรดิ์หลือซุ่นเอี้ยง:วันนี้...เนื่องด้วยฉลองการแต่งหนังสือ “วงเวียนกรรมของสัตว์โลก” พระแม่แห่งแดนสุขาวดีจึงจัดงานนี้ขึ้น จำนวนโต๊ะ ทั้งหมด 108 ตัว ได้เชิญท่านสาธุคุณระดับสูงจากสามแดน พระแม่และท่านเง็กเซียนฮ่องเต้ได้เสด็จออกมานั่งบัลลังก์แล้ว
อรหันต์จี้กง :หยางเซิงรีบนมัสการ
หยางเซิง :ลูกน้อยขอกราบนมัสการท่านพระแม่และท่านเง็กเซียนฮ่องเต้!
พระแม่ :เจริญพร! ลูกหยางไม่ต้องเกรงใจ รีบลุกขึ้นนั่งเถอะ!
หยางเซิง :กราบขอบพระคุณ ท่านพระแม่ที่ทรงพระกรุณา!(รีบนั่งลงบนเก้าอี้ มองเห็นทัศนียภาพแดนสุขาวดีชวนหลงไหลเหมือนสวนสวรรค์นอกจักรวาล ต้นท้อมีผลขาวเต็มไปหมดการแต่งกายที่ไม่เหมือนกันของพระศาสดา แห่งศาสนาต่างๆกัน เริ่มทยอยกันมาถึง แขกที่มาในงานพิธีดูเหมือนจะมากันครบหมดแล้ว บนพระเศียรของแขกทั้งหลาย ต่างมีรัศมีเปร่งประกายทำให้บริเวณงานนั้นสว่างไปด้วยแสง)
มหาจักรพรรดิ์หลือซุ่นเอี้ยง:เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองแสดงความยินดีต่อสำนักเซินเต๋อถัง เมืองไถจงที่ได้รับเทวโองการให้แต่งหนังสือ “วงเวียนกรรมของสัตว์โลก” สำเร็จลง งานฉลองเริ่ม ณ บัดนี้ ขอเชิญท่านทั้งหลาย โปรดยืนขึ้นแสดงการคำนับต่อท่านพระแม่และเง็กเซียนฮ่องเต้สามครั้ง ราชเลขา “มัวโกว” ได้นำเหล่านางฟ้า และคนธรรพ์นำดนตรีออกแสดงเหล่านางฟ้าร่ายรำ ไปตามจังหวะดนตรี ทั้งหมดพากันนั่งลง แล้วเลี้ยงฉลองกัน
พระแม่ :ลูกหยางไม่ต้องเกรงใจ งานวันนี้จัดให้เพื่อเจ้าโดยเฉพาะ เนื่องจากสาธุคุณชั้นสูงในสามแดนนี้ต่างก็ได้รับความสุขมานาน และต่างก็ไม่ต้องการงานแบบนี้นัก วันนี้จัดงานขึ้นเพื่อให้เธอเห็นเป็นบุญตา ได้เห็นความสุขอันพิสดารของสวรรค์จะได้เล่าสู่เพื่อนมนุษย์ฟัง จะได้โน้มนำพวกเขาได้มายัง ณ ที่นี้จึงจัดงานนี้ขึ้น ท่านพระศาสดาแห่งศาสนาต่างๆ ก็ได้มาเป็นเกียรติแม่ ลูกหยาง! อรหันต์จี้กง! ท่านทั้งสองเหน็ดเหนื่อยมากนัก
อรหันต์จี้กง :อันนี้เป็นหน้าที่สวรรค์!
หยางเซิง :ลูกมีบุญวาสนา พระแม่รักใคร่เอ็นดู จึงได้มอบหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ให้ ตามท่านอาจารย์ ท่องทั่วสากลโลกเที่ยวสอบถามพวกสัตว์ แต่งตำรับตำราธรรมะ สวรรค์ทรงเมตตาอาจารย์ สั่งสอนธรรมะสูงส่ง ไม่รู้ว่าจะตอบแทนบุญคุณเมื่อไร?
พระแม่ :ลูกหยางอย่าพูดถึงบุญคุณ ขอให้ยิงทำยิ่งก้าวหน้าเดินสู่หนทาง “มหาธรรม” อย่าได้หยุดยั้งบุญกุศล ภายภาคหน้าไม่อาจนับได้ รีบลิ้มผลไม้สวรรค์เถิด!
อรหันต์จี้กง :หยางเซิงไม่ต้องเกรงใจ สิ่งเหล่านี้พระแม่ประทานให้ทั้งสิ้น
หยางเซิง :ขอบพระคุณ พระแม่ที่มีมหากรุณาธิคุณ ผลไม้ทิพย์เหล่านี้ก็มี ผลท้อ ผลสาลี่ ทานแล้วรสชาติอร่อยน้ำลายไหลแล้วทำไมบนโต๊ะจึงมีผลไม้ 5 ถาด ทีเหมือนกับที่สำนักเซินเต๋อถัง?
พระแม่:เจริญพร! ลูกหยางเธอไม่รู้หรือ ผลไม้ 5 ถาดนี้ ก็คือ ผลไม้ที่อยู่บนโต๊ะบูชา ตอนนี้แดนสุขาวดีมีงานฉลอง ที่สำนักเซินเต๋อถัง ก็มีพิธีฉลองเช่นเดียวกัน สวรรค์และมนุษย์ร่วมใจกันเป็นหนึ่ง เธอก้มศีรษะแลดู ภาพเหตุการณ์ที่เซินเต๋อถังมิใช่อยู่ตรงหน้าที่แดนสขาวดีหรอกหรือ? (ชั่วขณะนั้นผู้ที่เหน็ดเหนื่อยที่เซินเต๋อถังจะมีน้ำทิพย์อยู่เต็มปากกันหมดทุกคน) พระแม่ได้นำจิตของผู้ที่เหน็ดเหนื่อยเหล่านั้นมาร่วมงานฉลองดังนั้น พวกเขาจึงมีความรู้สึกที่แปลกออกไป!
หยางเซิง :น่าแปลกประหลาดจริงๆ ทันใดนั้นก็แลเห็นวิญญาณเดิมของเขาเหล่านั้นมาร่วมงานฉลองด้วย
พระแม่ :จงดื่มน้ำอมฤตนี้เถอะ ดื่มเลย!
หยางเซิง :ขอบพระทัยพระแม่ที่มีมหากรุณาธิคุณ! พอดื่มน้ำอมถต รู้สึกเหมือนกาวเหนียวๆเกาะติดมีความสดชื่นหอมหวาน ขอกราบเรียนถามพระแม่ ที่โต๊ะรับรอง นอกจากพระบรมศาสดาของแต่ละศาสนา พระแม่กวนอิม และเทวดาแห่งแดนสุขาวดีแล้ว ที่เหลืออีกหกท่านไม่รู้จักมักคุ้นมองดูก็รู้สึกว่าเป็นผู้มีบุญวาสนา ไม่ทราบว่าเป็นท่านผู้ใด?
พระแม่ :“หมุนเวียนในโลกมนุษย์ บุคคลข้างหน้าไม่รู้จัก”เนื่องจากเจ้าแต่งหนังสือ “เที่ยวเมืองนรกเที่ยวเมือนสวรรค์” จบบริบูรณ์สองเล่ม ปลอบเตือนผู้คนจำนวนไม่น้อย สร้างบุญบารมีนับไม่น้อย ตอนที่ถวายหนังสือเที่ยวเมืองสวรรค์ แม่ได้ประทานให้บรรพบุรุษของเจ้าทั้งเก้าชั่วโคตรมีโอกาสขึ้นสวรรค์ เพื่อบำเพ็ญธรรมต่อ มีบางคนอยู่ในพุทธสถาน บางคนอยู่ในอุทยานจี่เต๊กสิ้ม บ้างอยู่ในวังแดนสุขาวดี วันนี้เชิญบรรพบุรุษมาเพียงหกท่าน เพื่อร่วมพิธีฉลองนี้ เพื่อให้หลานที่อยู่ในมนุษย์โลกกับปู่ ปู่ทวด ได้พบหน้ากัน
หยางเซิง : ขอบพระคุณ พระมหากรุณาธิคุณของพระแม่ที่ทรงโปรด ช่วยเหลือบรรพบุรุษของกระผม เนื่องจากผมรุ่นหลังปู่ทวด ดังนั้นจึงไม่รู้จักหน้าตา ขอบรรพบุรุษโปรดอภัยด้วยเถิด
พระแม่ :ตอนนี้ให้ปู่ของเจ้า (โจ้เทียม) ได้พูดคุยก่อน
โจ้เทียม :วันนี้ได้พบหน้าหลานที่แดนสุขาวดีนี้นับว่าโชคดีแท้ในใจมีความยินดีเป็นล้นพ้น เมื่อก่อนนี้ปู่เป็นทหารรับใช้ชาติได้รบกับทหารญี่ปุ่นจนเสียชีวิต ตอนนั้นพ่อของเจ้าเพิ่งจะมีอายุเพียงสามขวบเท่านั้น ครอบครัวทุกข์ยาก พ่อของเจ้าเติบโตขึ้นมา มีความวิริยะอุตส่าห์ ทำไร่ไถนาไปพลางและเป็นลูกจ้างเขาไปพลาง แม้จะยากจนก็ไม่ละโมภไม่คดโกง คอยช่วยเหลือเพื่อนบัาน ช่วยผู้อื่นพ้นทุกข์ พื้นจิตมีเมตตาธรรม ศรัทธาไหว้พระ เนื่องจากบรรพบุรษตระกูลหยางของเราสะสมบุญบารมีไว้มาก ดังนั้นในระหว่างความทุกข์ยาก สวรรค์ก็ได้ประทานพุทธบุตร ตอนเธอเด็กๆอยู่เธอก็ติดตามพ่อไหว้พระอยู่เนืองๆค่อยๆเข้าใจธรรมะ เมื่อได้รับการชี้แนะจากเทพเทวดาและพระพุทธ จนในที่สุดเธอก็สละกายช่วยสวรรค์เผยแผ่ธรรมะแต่งหนังสือ “สวรรค์- นรก “ 2 เล่มสำเร็จลง เรียบเรียงหนังสือจำนวนไม่ถ้วน สร้างบุญสร้างกุศล จนกระทั่งวันนี้สามารถช่วยเหลือบรรพบุรุษได้ขึ้นสวรรค์ชั้นอรูปพรหม ได้รับแต่งตั้งเป็น “โพวเต็กจิกยิ้ง” หวังให้เธอเผยแผ่ธรรมะต่อไป วันข้างหน้าบรรพบุรุษจะได้รับรัศมีเจ้าด้วย
หยางเซิง :ขอรับกระผม ขอบพระคุณพระแม่ที่มีมหากรุณาธิคุณที่ประทานตำแหน่งให้
พระแม่ : เมื่อหว่านไถ ก็ต้องได้รับผล รับประทานผลไม้และอาหารทิพย์ต่อเถอะ !
หยางเซิง :(นางสวรรค์ขับร้องฟังเสนาะหู กำลังเข้ามาหา มีถาดผลท้อในมือมาด้วย ถวายแด่พระแม่)
พระแม่ :เอาผลท้อให้หยางเซิงด้วย !
หยางเซิง : (เลขาสวรรค์มัวโกว ได้นำผลท้อมาให้ต่อหน้า)
มัวโกว :ผลท้อแดนสุขาวดีมอบแก่หยางเซิง ขออวยพรให้รุ่งเรืองในมหาธรรมสมาคม !
หยางเซิง :ขอบคุณ ท่านเลขาที่นำผลไม้มาให้
มัวโกว :มิต้องเกรงใจ
หยางเซิง :ผมจะนำผลท้อนี้กลับไปที่สำนัก เพื่อให้แก่เพื่อนร่วมสำนัก วันนี้สามารถแต่งหนังสือ “วงเวียนกรรมของสัตว์โลก” สำเร็จลงเพราะเพื่อนร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือ จึงได้ผลในวันนี้ พวกเขาเป็นนักบุญนิรนาม เมื่อมีบุญก็ต้องได้รับด้วย
พระแม่ :ถูกต้อง! บรรดาศิษย์ที่สำนักเซินเต๋อถังได้ช่วยกันแต่งหนังสือ ตรากตรำค่ำคืน มีบุญมากมาย แม่จะประทานน้ำอมถตให้หนึ่งขวด ให้ลูกหยางนำกลับไปที่สำนักให้พวกเขาได้ร่วมดื่มด้วย
เง็กเซียนฮ่องเต้ :วิญญาณสรรพสัตว์ล้วนพระแม่เป็นผู้เสกสัตว์เดรัจฉานได้รับโชคดีในวันนี้ พระแม่มีเมตตากอบกู้ขอเพียงให้รู้สำนึก รู้บำเพ็ญเพียร ไม่ทำร้ายต่อกัน ก็จะได้เกิดเป็นคนยิ่งมนุษย์ด้วยแล้วต้องรักตัวสงวนกาย อย่าได้ตกลงไปเกิดเป็นสัตว์นี่คือความปรารถนาของแม่
ศาสนาเต๋า :เวลาไหว้พระไหว้เจ้า จงอย่าฆ่าสัตว์มาเซ่นไหว้หน้าศาลเจ้า ควรทำให้สะอาด ดอกไม้ผลไม้เป็นของมีค่าควรแก่สักการะบูชา ขอให้ผู้คนเข้าสู่ประตูธรรม คนและสัตว์ต่างขึ้นสวรรค์
พระตถาคต :เจริญพร ! พระพุทธเจ้าจิตเมตตา อยากโปรดสัตว์ให้หมดโลก จึงจะเข้าสู่นิพพาน สัตว์มีโชควาสนาวันนี้ได้รับการโปรดช่วยเหลือ ขอให้ผู้คนจงรักเอ็นดูสัตว์ อาจมีบ้างที่สัตว์ชาติก่อนเป็นญาติโยมเพื่อนฝูง ดังนั้นควรหล่อเลี้ยงจิตให้มีเมตตา รักใคร่เอ็นดูมัน ขอให้ผู้คนเดินตามรอย ฝึกพุทธบำเพ็ญเพียรหวังสัมถทธิ์ผล
ขงจื้อ :เมื่อประชาชนรักเมตตาสัตว์ ก็ย่อมไม่ฆ่าสัตว์ คนก็ไม่ต่างไปจากปราชญ์เมื่อพลาดแล้วแก้ไขบุญกุศลยิ่งใหญ่เอย
พระเยซู :พระเจ้ารักประชาชน เหมือนรักชีวิตของสัตว์เดรัจฉาน สัตว์ส่วนใหญ่เป็นผู้ช่วยของคน สุนัขเฝ้าบ้าน ไก่ขันรับอรุณ ควายไถนา วัวให้น้ำนม ดังนั้นคนควรให้เมตตามากๆ ไม่ควรเอาน้ำตาปนเลือดป้ายใส่ไม่กางเขน แน่นอนพวกมันจะฟื้นคืนมายังมนุษย์โลกอีก!
พระเจ้าโมฮะหมัด :จงปล่อยวางดาบลง ล้างมือที่เปื้อนเลือดเสียแล้วมาทานอาหารเจที่สดๆ สักมื้อหนึ่ง นี่คือความปรารถนาที่แท้จริงของพระอาล่าที่แท้จริง
พระแม่กวนอิม :เจริญพร ! ยานบุญบรรทุกสรรพสัตว์เต็มไปหมดคนก็มา เป็ดไก่ก็มา “วงเวียนกรรมของสัตว์โลก” แต่งเสร็จทุกบ้านมีจิตพุทธะสุนัขไก่ต่างบินขึ้นสวรรค์
กุมารเทพ :ธรรมะศักดิ์สิทธิ์ แผลงเป็น ไผ่ศักดิ์สิทธิ์ พระแม่กวนอิมสร้างยานบุญ ร่มไผ่ปกป้องมวลมนุษย์ ขอให้สาธุชนจงบังเกิด “ปัญญาปรมิตราจิต” เถิด!
พระแม่ :ลูกหยางรีบๆรับผลไม้ทิพย์เถิด งานพิธีจะเสร็จสิ้นลงแล้ว สำนักเซินเต๋อถังรับบัญชาเป็ดสอนธรรมเป็นอรูปยานขึ้นตรงต่อแดนสุขาวดี เผยแผ่อรูปธรรม มหายานสูตร วันนี้แต่งเสร็จ “วงเวียนกรรมของสัตว์โลก” จึงมีงานจัดฉลองได้สิ้มรสผลไม้ทิพย์ อาหารทิพย์ พร้อมทั้งโปรดให้ลูหยางได้พบกับบรรพบุรุษด้วย ขอให้สาธุชนเมื่ออ่านหนังสือนี้แล้วจะรู้สึกเจ็บปวดเสียใจ รีบๆหลีกห่างจากความชั่ว จะได้ไม่ต้องไม่เกิดเป็นสัตว์สี่ชนิด เกิดลำบากในป่าเขา หรือไม่ก็ถูกกักขังในกรงในเล้า หรือจมปรักอยู่ในทะเลทุกข์ เกิดเพื่อดูคนคอยกินตายก็สุดแต่คนสังหารเป็นอาหาร เมื่อไม่ได้เกิดเป็นคน ทรมานแสนสาหัสยากกลับเกิดเป็นคนอีก ! ลูกหยางจงลงแรงต่อไปแม่จะอวยพร “แสงธรรมเปล่งประกายมหาธรรมกว้างไกลหมื่นลี้” และชมเชยท่านอรหันต์จี้กง “อรหันต์จี้กงบุญญาเหลือคณานับ กอบกู้ชาวโลกสำเร็จพุทธะนับไม่ถ้วน”
อรหันต์จี้กง :ขอบคุณพระแม่ประทานพรให้ ใต้ฟ้าคือบ้านอาตมาไม่นิพพานอยู่ในสรวงสวรรค์ อยากให้ชาวโลฝึกตามอาตมาฝึกเต๋าบำเพ็ญธรรม จะได้ไม่เสียแรงของอาตมากับหยางเซิงในการแต่งหนังสือศักดิ์สิทธ์ทั้งสามเล่มนี้
มหาจักรพรรดิ์หลือซุ่นเอี้ยง:งานเลี้ยงฉลองจบสิ้นลงเพียงเท่านี้ขอทั้งหมดยืนขึ้น คำนับให้พระแม่ และเง็กเซียนฮ่องเต้สามครั้ง
พระแม่ :มิต้องมีมารยาท! แม่มอบผลท้อและน้ำอมฤตให้กับผลไม้ 5 ถาดนี้ แก่สาธุชนในสำนัก ลูกหยางดอกปทุมทิพย์เพิ่มขึ้นอีกสามชั้น
หยางเซิง :ขอบพระคุณ พระแม่มีมหาเมตตา ผมจะนำช่อทิพย์เหล่านี้กลับสู่สำนัก ให้เพื่อนทุกคนได้ร่วมลิ้มรส ขอกราบลาพระแม่ท่านเง็กเซียนฮ่องเต้ และสาธุคุณชั้นสูงทั้งหลาย
อรหันต์จี้กง :ขอบคุณที่พระแม่และสาธุคุณ ที่ประทานของแก่ศิษย์ของอาตมา หยางเซิงรีบขึ้นปทุมทิพย์ เตรียมตัวกลับสำนัก
มหาจักรพรรดิ์หลือซุ่นเอี้ยง:ทั้งหมดโปรดส่ง ท่านอรหันต์จี้กงและหยางเซิง.....
อรหันต์จี้กง :นั่งปทุมทิพย์ช่อนี้ ท่องเที่ยวทั่วสามแดน บรรทุกคัมภีร์สอนผู้คน เป็นอาหารทางมีปัญญาของชาวโลก วันนี้สวรรค์ก็ประทานผลท้อและน้ำอมฤต เป็นอาหารทางกายของชาวโลก ทำให้สติผ่องใส อายุยืนยาว!ขึ้นสวรรค์ ลงนรกอีกทั้งบนพิภพ ข้าได้กอบกู้คนมิใช่น้อย สัตว์เดรัจฉานก็ได้ขึ้นยานนี้ด้วย เมื่อความตั้งใจเหมือนกัน ไฉนจะแบ่งเขาแบ่งเราจำนวนพระพุทธเจ้าไม่น้อยยังไม่วิจารณ์ว่าวิญญาณจะต่ำจะสูงพวกเราล้วนเป็นลูกหลานพุทธะ ร่วมจิตร่วมแรง สรรค์สร้างแผ่นดินมนุษย์ให้บริสุทธิ์เถิด! จากนี้ไปขอให้มนุษย์ชาติ จงประกอบความดีบำเพ็ญตน สัตว์เดรัจฉานก็เปลี่ยนหัวเปลี่ยนหน้ากลับตัวเป็นคน จงจำไว้ว่า ! เสียงสัมพันธ์ใกล้ชิดของพระอรหันต์จี้กงจะอยู่ร้องเตือนพวกเจ้าทุกๆขณะจิตตลอดไป.......สำนักเซินเต๋อถังถึงแล้ว หยางเซิงลงจากปทุมทิพย์ได้ วิญญาณกลับเข้าร่าง...............