ขงจื่อไม่พูด “พลังลึกลับวุ่นวายเจ้า.” ลูกศิษย์จื่อโล่วถามเรื่องผีสาง ขงจื่อว่า “เรื่องของคนยังไม่สามารถ จะสามารถเรื่องผีสาง!” ดังนั้น เมื่อพูดเรื่องผีสางแล้วชาวหยูจะระมัดระวัง
ขงจื่อว่า “ผีและเจ้าที่ทำบุญ!”
จื่อซือถามท่านขงจื่อถึงเรื่องผีเรื่องเจ้า ท่านขงจื่อตอบว่า “วิสัยของผีเจ้า มีอิทธิฤทธิ์ มองไม่เห็นรูป ฟังไม่มีเสียง แต่เป็นคงคาพยพของสรรพสิ่งที่พร่องขาดไม่ได้ เขาทำให้คนในโลกมีศีลสะอาด แต่งกายสุภาพไปเซ่นสรวง ผีเจ้ามีอยู่เต็มไปหมด เหมือนอยู่บนศีรษะ เหมือนอยู่รอบข้าง” ในคัมถีร์ซือจิงว่า “การมาของเจ้าไม่อาจคาดคะเนได้ นับประสาอะไรจะไม่เคารพ” เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ปรากฏชัด เป็นเรื่องจริงไม่ลวง มันเป็นเช่นนี้”
ตอนสมัยข้ายังเป็นเด็ก ได้เคยเห็นมีการเล่นงิ้วเรื่องนรกสิบขุมตามศาลเจ้า ผู้ชมก็มีใจหวาดหวั่น ต่างให้ความเห็นกันไป ข้าตอนนั้นดูแล้วมีความรู้สึก ถ้าเป็นคนดีก็ไปสวรรค์เป็นคนชั่วก็ลงนรกในตอนแรกยังไม่มีทัศนะคติเรื่องกฎแห่งกรรมของพุทธศาสนา รู้เพียงตักเตือนคนให้ทำความดี ก็จะได้รับผลอบรมการศึกษาของสังคม
เมื่อเร็วๆ นี้ได้อ่านหนังสือบันทึกเที่ยวเมืองนรก เป็นนรก 10 ขุม ทั้งยังจดจำในสมอง คืนหนึ่งก็ฝันว่าเจ้าศาลหลักเมืองพาไปเที่ยวเมืองนรก สภาพของนรกคล้ายกับภาพเขียน ภาพเขียนสิบขุมของเอ็งบุ้นอุ้ย ไม่ใช่ภาพวาดที่เหมือนจริง เมื่อกลางวันครุ่นคิด กลางคืน ก็เอาไปฝัน พูดได้ว่าเป็นความรู้สึกมายา ถ้าหากมีภาพของนรกจริงแล้วพวกจี้ปล้น ข่มเหง ขโมย อกุศลสิก็จะไม่ได้รับอภัยโทษตลอดพวกก่อการจลาจล เข่นฆ่าประชาชนให้เห็นคนเหล่านี้ควรระมัดระวังตัวไว้!